บทวิเคราะห์ สเปอร์ส VS เชลซี : พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24
รายการ : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24
แมตช์การแข่งขัน : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ VS เชลซี
วัน/เวลาแข่งขัน : คืนวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา 03.00 น.
สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม
ถ่ายทอดสด : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
ดูคลิปไฮไลท์ และ Full Match ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทุกคู่ ที่นี่
สภาพความพร้อม สเปอร์ส
สเปอร์ส VS เชลซี
“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังคงทำผลงานได้อย่างร้อนแรง หลังผ่านไป 10 นัด ชนะ 8 เสมอ 2 ยังไม่แพ้ใคร โดยเกมนัดล่าสุด คือการบุกไปเฉือนชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ทำให้มี 26 แต้ม รั้งรองจ่าฝูงของตาราง โดยตามหลัง เรือใบสีฟ้า เพียงแต้มเดียว และแข่งน้อยกว่า 1 นัด เนื่องจากลงสนามช้ากว่า
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ อังเก้ ปอสเตโคกลู จะไม่สามารถใช้งาน ไรอัน เซสเซยง, อิวาน เปริซิช และ มานอร์ โซโลม่อน ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมทั้งยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ เดสตินี่ อูโดกี และ เบน เดวิส
เกมนี้เจ้าถิ่นจะมาในแผน 4-2-3-1 แนวรับ 4 คน ประกอบด้วย เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน และ เดสตินี่ อูโดกี มิดฟิลด์คู่กลางส่ง ป๊าปป์ ซาร์ ลงคุมเกมร่วมกับ อีฟส์ บิสซูม่า ส่วนแนวรุกใช้ เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แมดดิสัน และ ริชาร์ลิซอน คอยสร้างสรรค์โอกาสให้ ซน ฮึง-มิน ไล่ล่าตาข่าย
สภาพความพร้อม เชลซี
สเปอร์ส VS เชลซี
ส่วนผู้มาเยือนอย่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี หลังจากคว้าชัยในลีกได้ 2 นัดติด พวกเขาก็เก็บได้เพียงแต้มเดียวจาก 2 นัดหลัง โดยเกมลีกนัดที่ผ่านมา คือการพลาดท่าพ่ายคาบ้านต่อ เบรนท์ฟอร์ด 0-2 ทำให้แข่ง 10 นัด ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 4 มี 12 แต้ม รั้งอันดับ 13 ของตาราง กระนั้นล่าสุด สิงห์บลูส์ ก็กู้หน้ากลับมา ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0 ในศึก คาราบาว คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังคงมีปัญหาในการจัดทัพ เมื่อจะไม่สามารถใช้งานนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, เทรโวห์ ชาโลบาห์, เบน ชิลเวลล์, โรเมโอ ลาเวีย, คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า, อาร์มันโด้ โบรย่า และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ส่วนในรายของ โคล พาลเมอร์ กับ มีคายโล มูดริค ยังต้องรอเช็กสภาพความฟิต
คาดว่าทีมเยือนจะใช้ระบบ 4-3-3 แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย อักเซล ดิซาซี่, ติอาโก้ ซิลวา, ลีวาย โคลวิลล์ และ มาร์ค กูกูเรย่า ส่วนแดนกลางส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มอยเซส ไกเซโด้ และ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ คอยคุมจังหวะเกม ขณะที่เกมรุกใช้ โคล พาลเมอร์, นิโคลัส แจ็คสัน และ ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นสามประสานในแดนหน้า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส : กูเยลโม่ วิคาริโอ (GK), เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน, เดสตินี่ อูโดกี, ป๊าปป์ ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า, เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แมดดิสัน, ริชาร์ลิซอน, ซน ฮึง-มิน
เชลซี : โรเบิร์ต ซานเชซ (GK), อักเซล ดิซาซี่, ติอาโก้ ซิลวา, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ค กูกูเรย่า, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โคล พาลเมอร์, นิโคลัส แจ็คสัน, ราฮีม สเตอร์ลิง
ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุด
- 27/10/23 ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 23/10/23 ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 07/10/23 ชนะ ลูตัน ทาวน์ 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 30/09/23 ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 24/09/23 เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 01/11/23 ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0 (เหย้า) คาราบาว คัพ
- 28/10/23 แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 21/10/23 เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 07/10/23 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 4-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 02/10/23 ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด
- 26/02/23 สเปอร์ส 2-0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
- 14/08/22 เชลซี 2-2 สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก)
- 23/01/22 เชลซี 2-0 สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก)
- 12/01/22 สเปอร์ส 0-1 เชลซี (ลีก คัพ)
- 05/01/22 เชลซี 2-0 สเปอร์ส (ลีก คัพ)
บทวิเคราะห์ สเปอร์ส VS เชลซี
ศึกแห่งศักดิ์ศรี “ลอนดอนดาร์บี้แมตช์” ระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่ ที่ฟอร์มกำลังสวนทางกัน โดยเจ้าถิ่นอย่าง ไก่เดือยทอง กำลังมั่นใจแบบสุดๆ หลังทำผลงานได้น่าประทับใจอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทีมเยือนอย่าง สิงห์บลูส์ ผลงานยังไม่สม่ำเสมอ และเอาแน่เอานอนไม่ได้เลย
ทั้งนี้ แม้ว่าศักยภาพและชื่อชั้นของขุมกำลัง ทั้ง 2 ทีม จะดูสูสีใกล้เคียงกัน แต่หากมองไปที่ระดับมาตรฐานการเล่น และความไหลลื่นลงตัวของเกมรุกในช่วงที่ผ่านมา แน่นอนว่าเป็น สเปอร์ส ที่ดูเหนือกว่าพอสมควร แม้เกมนี้ เชลซี คงจะมาสูู้แบบสุดกำลัง และคงเป็นเกมที่สนุกดุเดือด แต่สุดท้ายแล้วยังเชื่อว่า เจ้าบ้านที่มีความเด็ดขาดกว่า น่าจะเป็นฝ่ายเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ พร้อมทวงตำแหน่งจ่าฝูงกลับคืนมาอีกครั้ง