ข่าวฟุตบอลล่าสุดประวัติราชาลูกหนัง

ราชาลูกหนัง จอมทัพหัวไข่ดาว แห่งวงการฟุตบอล ซีดาน

ราชาลูกหนัง จอมทัพหัวไข่ดาว แห่งวงการฟุตบอล ซีดาน

 

เกิดวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1972 อดีตนักฟุตบอลอาชีพและผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสซีดานเกิดที่เมืองมาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส ในครอบครัวชาวแอลจีเรียอพยพ มีชื่อเต็มว่า ซีเนดีน ยาซีด ซีดาน (Zinedine Yazid Zidane) มีชื่อเล่นว่า “ซีซู”เริ่มเป็นนักฟุตบอลอาชีพขณะอายุ 17 ปี กับกาน ของฝรั่งเศส จากนั้นก็มาประสบความสำเร็จกับบอร์โด ในลีกเอิง ได้รับการคัดเลือกให้เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป ได้เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งแรก โดยเป็นผู้เล่นคนหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งช่วยให้ฝรั่งเศสได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นสมัยแรก

ซีดาน

เมื่อเป็นผู้โหม่งทำประตูให้กับฝรั่งเศสนำบราซิล คู่ชิงในรอบชิงชนะเลิศถึง 2 ประตู และยังช่วยให้ฝรั่งเศสได้แชมป์ยูโร 2000 ในอีก 2 ปีต่อมา ซึ่งถือได้ว่าฝรั่งเศสนับเป็นชาติแรกที่ได้ทั้งแชมป์โลกและแชมป์ยูโรติดต่อกัน อาจถือได้ว่าซีดานเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของโลก ครบเครื่องทุกอย่างในผู้เล่นคนเดียว ทั้งการผ่านบอลแม่นยำ เติมเกมรุก กำหนดจังหวะเกม เป็นศูนย์กลางผสมผสานของทีมได้ลงตัว หลังจาก ซีดาน ย้ายมาร่วมทีม บอร์กโดซ์ เขาก็เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนทีม และสามารถพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 1995/1996 ซึ่งแม้ว่า บอร์กโดซ์ จะพ่าย บาเยิร์น มิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน จนพลาดแชมป์ไป แต่ฝีเท้าของ ซีดาน ที่ได้สำแดงออกมาในฤดูกาลนั้น ทำให้เขาแจ้งเกิดในเวทีลูกหนังยุโรป ได้สำเร็จ จนมีคนยกย่องว่าจะกลายเป็นตำนานลูกหนังของฝรั่งเศส เช่นเดียวกับ มิเชล พลาตินี่ ที่ ซีดาน เคยส่งบอลให้กับมือ ในตอนที่เขาเป็นเด็กเก็บลูกฟุตบอล ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 1984

ซีดาน

 

เข้าสู่วงการฟุตบอล

ซีดาน มีอายุได้ 14 ปี พรสวรรค์ของเขาก็ไปเตะตาแมวมองของสโมสรกานส์ ที่มาชักชวนให้เขาไปเข้าโรงเรียนลูกหนังฝึกฝนฝีเท้ากับทางสโมสร ซีดาน ได้กลายเป็นสมาชิกทีมชุดใหญ่ของกานส์ ตั้งแต่ตอนที่อายุยังไม่ถึง 17 ปี โดยในฤดูกาล 1990-1991 เขาก็เป็นตัวจริงของทีมได้แล้ว แม้ว่า กานส์ จะตกชั้นไปจากลีก เอิง แต่ ซีดาน ก็ยังคงได้ลงเล่นในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส ต่อไป เมื่อ บอร์กโดซ์ เข้ามาคว้าตัวเขาไปร่วมทีม ต่อทันทีที่ กานส์

ซีดาน

เป็นดาวรุ่ง

ซีดาน ก็ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลก และนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรป
ทีมยักษ์ใหญ่ของสเปน ทุ่มเงินมหาศาลเป็นสถิติโลก 47 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อตัว ซีดาน จาก ยูเวนตุส ไปสู่ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว และในฤดูกาลแรกที่ ซีดาน ไปอยู่กับ รีล มาดริด เขาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้ทันที ด้วยการเอาชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในรอบชิงชนะเลิศ โดยที่ ซีดาน สามารถทำประตูสุดคลาสสิค จากการวอลเลย์บอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ซีดาน และทีมชาติฝรั่งเศส ต้องมาประสบความล้มเหลวอย่างยิ่งในฟุตบอลโลก 2002 ที่ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ เมื่อกระเด็นตกรอบแรกไปอย่างน่าอาย โดยสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งก็เพราะ ซีดาน ได้รับบาดเจ็บในเกมอุ่นเครื่องก่อนการแข่งขัน ทำให้ไม่ฟิตสมบูรณ์เต็มที่ในการลงเตะฟุตบอลโลก 2002 อย่างไรก็ตาม ซีดาน ก็ยังกลับมาพาทีมรีล มาดริด คว้าแชมป์อินเตอร์ คอนติเน็นทั่ล, ยูโรเปี้ย์ ซูเปอร์ คัพ และ แชมป์ลา ลีกา สเปน มาครองได้ ในฤดูกาล 2002/200

ซีดาน

 

ติดทีมชาติครั้งแรก

ซีดาน ติดทีมชาติครั้งแรก ในปี 1994 และสร้างความประทับใจสุดๆ ด้วยการลงมาทำคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ ฝรั่งเศส ไล่ตามตีเสมอ สาธารณรัฐเช็ก 2-2 หลังจากที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน 0-2 ในตอนที่ ซีดาน ยังไม่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ซีดาน มาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในระดับนานาชาติ เมื่อติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบสุดท้าย ปี 1996 ที่ประเทศอังกฤษ เป็นเจ้าภาพ และ ซิซู ก็โชว์ลวดลายลีลาออกมาได้อย่างน่าประทับใจ แม้ว่าสุดท้ายแล้ว ฝรั่งเศส จะไม่ถึงดวงดาวในการแข่งขันครั้งนั้น แต่ ซีดาน ก็กลายเป็นเป้าหมายสำคัญสโมสรชั้นนำในยุโรป และเป็นอนาคตของทีม เลส์ เบลอส์ อีกด้วย

หลังจากจบ ยูโร 96 ยูเวนตุส ทีมมหาอำนาจของอิตาลี ที่ประทับใจฝีเท้าของ ซีดาน เป็นอย่างยิ่ง ก็คว้าตัว ซิซู ไปร่วมทีม ด้วยค่าตัวเพียงประมาณ 3 ล้านปอนด์ และ ซีดาน ก็พา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ได้ทันที ด้วยการนะ ริเวอร์เพลท ของอาร์เจนติน่า ในการชิงแชมป์ฟุตบอลอินเตอร์คอนติเน็นทั่ล คัพ ที่เป็นการเอาแชมป์สโมสรยุโรป มาเจอกับแชมป์สโมสรของอเมริกาใต้ นั่นเอง

ในเวลาต่อมา ซีดาน ก็ขับเคลื่อนพาทีมยูเวนตุส คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ในปี 1997 และ 1998 ก่อนจะไปช่วยทีมชาติฝรั่งเศส ลงทำศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ปี 1998 ที่ตนเองเป็นเจ้าภาพ

ในฟุตบอลโลก 1998 พลพรรคนักเตะฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของ เอ็มเม่ ฌักเก้ต์ และมี ซีดาน เป็นหัวใจของทีม แถมยังมีเสียงเชียร์มหาศาลจากแฟนบอลของตนเอง สามารถทะลุทะลวงเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศกับ บราซิล ที่มี โรนัลโด้ เป็นตัวชูโรง

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1998 คือหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของฝรั่งเศส เมื่อพวกเขาสามารถเอาชนะ บราซิล ได้แบบขาดลอย 3-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก สมัยแรก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยที่ 2 ประตูแรกที่นำไปสุ่ชัยชนะของทีม ตราไก่ มาจากการโหม่งของ ซีเนอดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์คนเก่งของทีมนั่นเอง ซึ่งในช่วงปลายปีนั้น ซีดาน ก็ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลก และนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรป มาครองได้อีกด้วย

 

คว้าแชมป์

บอร์กโดซ์ ยูฟ่า คัพ (รองแชมป์) : 1995/1996
แชมป์ลีกเอิง : 1995/1996
อินเตอร์ โตโต้ คัพ : 1995
ยูเวนตุส เซเรีย อา : 1996/1997 : 1997/1998
ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ : 1996
อิตาเลีย ซูเปอร์ คัพ : 1997
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รองแชมป์) : 1996/1997, 1997/1998
เรอัล มาดริด ลา ลีกา : 2002/2003
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2001/2002
อินเตอร์เนชัลแนล คัพ : 2002
ยูโรเปี้ยนส์ ซูเปอร์ คัพ : 2002
สแปนิช ซูเปอร์ คัพ : 2001, 2003
ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก : 1998 (แชมป์), 2006 (รองแชมป์)
ฟุตบอลยูโร : 2000 (แชมป์

รางวัลส่วนตัว

มิดฟิลด์ยอดเยี่ยม, ฟุตบอลสโมสรโลก : 1997/1998
นักฟุตบอลแห่งปี : 1998
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก : 1998, 2000, 2003
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก อันดับ 2 : 2006
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก อันดับ 3 : 1997, 2002
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรป (บัลลงดอร์) : 1998
ผู้เล่นทรงคุณค่า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2001/2002
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรปในช่วง 50 ปี, ยูฟ่า โกลเด้น จูบิลี่ โพล : 2004
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์, ฟุตบอลโลก : 2006
ติดทีมยอดเยี่ยมของโลก : 2005, 2006 Onze d’Or: 1998, 2000, 2001
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์, ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป : 2000 FIFA All-Star Team: 1998, 2006 UEFA BEST XI: 2001, 2002, 2003 Chevalier (Knight) of the Légion d’honneur: since 1998

แขวนสตั๊ด

ซีดาน ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพหลังจากเหตุการณ์ที่ใช้เอาศีรษะโขกหน้าอกมาร์โก มาเตรัซซี นักฟุตบอลกองหลังของอิตาลี ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งนั่นทำให้ซีดานต้องถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม นับเป็นการปิดฉากชีวิตการเป้นนักฟุตบอลอาชีพอย่างไม่สวยงามนัก

ชีวิติหลังแขวนสตั๊ด

ซีดาน ก็ได้ผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการทีมและหัวหน้าผู้ฝึกสอน โดยเริ่มจากการเป็นผู้จัดการทีมเรอัลมาดริดชุดเยาวชนก่อน ในฤดูกาล 2015–16 ผลงานของเรอัลมาดริดไม่ค่อยดีนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญคือบาร์เซโลนา โดยการแข่งขันเอลกลาซีโก ก็แพ้ให้กับบาร์เซโลนาไปถึง 0-4 ที่สนามซานเตียโก เบร์นาเบว ของตัวเองไปอย่างบอบช้ำ ดังนั้นเมื่อถึงเดือนมกราคม ค.ศ. 2016 ผู้บริหารสโมสรจึงตัดสินใจปลดราฟาเอล เบนีเตซ ผู้จัดการคนเดิมออก แล้วแต่งตั้งให้ซีดานขึ้นมาเป็นแทน ซึ่งในระยะเวลาเพียงไม่นาน

ซีดาน ก็ทำให้เรอัลมาดริดกลับมาสู่เส้นทางของตัวเองได้ เมื่อพบกับเอลกลาซีโกอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ในฤดูกาล ก็เป็นฝ่ายบุกไปเอาชนะได้ถึงสนามกัมนอว์ 1-2 และจบฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์ มีคะแนนห่างจากบาร์เซโลนาที่ได้แชมป์เพียงคะแนนเดียว (91 กับ 90) และยังพาทีมได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นสมัยที่ 11 อีกด้วย ตลอดระยะเวลาการคุมทีมเรอัลมาดริดชุดใหญ่ของซีดาน เขาได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ 3 สมัยติดต่อกัน (ฤดูกาล 2015-2016, 2016-2017 และ 2017-2018) และ ยังพาเรอัลมาดริดชนะเลิศรายการยูฟ่า ซูเปอร์คัพ รวมทั้งฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (Club World Championship) ได้อย่างละ 2 สมัย จากผลงานดังกล่าวทำให้เขาได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของโลกประจำปี 2017 เขาได้ประกาศลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมเรอัลมาดริดในปี 2018 แต่ได้กลับมาคุมทีมเป็นครั้งที่สองในปี 2019 และ สามารถพาทีมชนะเลิศการแข่งขันลาลิกาและฟุตบอลถ้วยรายการซูเปร์โกปาเดเอสปัญญาได้อีกอย่างละ 1 สมัย

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *