ข่าวฟุตบอลล่าสุดประวัติราชาลูกหนัง

ราชาลูกหนัง เสื้อเตี้ย แห่งวงการฟุตบอล มาราโดนา

ราชาลูกหนัง เสื้อเตี้ย แห่งวงการฟุตบอล มาราโดนา

มาราโดนา เกิดในปี ค.ศ. 1960 ที่เมืองลานุส ประเทศอาร์เจนตินา ตอนอายุ 8 ปี เขาเริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรท้องถิ่น Estrella Roja ก่อนจะถูกเรียกให้มาติดสโมสรเยาวชนของ Argentinos Juniors ซึ่งมาราโดนาเริ่มเล่นในระดับอาชีพด้วยวัย 15 ปี และกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกฟุตบอลปริเมราดิบิซิออน ต่อมาเขาย้ายไปร่วมสโมสรโบกายูนิออร์ส ในปี ค.ศ. 1982 มาราโดนาย้ายไปอยู่สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาในสเปนด้วยค่าตัว 7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

มาราโดนา

 

ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในขณะนั้นแต่ด้วยอาการบาดเจ็บและปัญหาหลายอย่างทำให้มาราโดนาย้ายไปอยู่สโมสรนาโปลีในอิตาลี ที่ซึ่งเขาได้รับตำแหน่งกัปตันทีมและพาสโมสรสร้างสถิติใหม่หลายอย่าง หลังจากนั้นมาราโดนาย้ายไปอยู่สโมสรฟุตบอลเซบิยา นีเวลส์โอลด์บอยส์ และกลับมาอยู่สโมสรโบกายูนิออร์สก่อนจะเลิกเล่นในปี ค.ศ. 1997 ในด้านทีมชาติ มาราโดนาติดทีมชาติในปี ค.ศ. 1977 และนำทีมอาร์เจนตินาชนะฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโกซึ่งในฟุตบอลโลกครั้งนี้มาราโดนาได้ทำ “ประตูหัตถ์พระเจ้า” ที่เป็นที่ถกเถียงระหว่างแข่งกับทีมชาติอังกฤษ มาราโดนาเล่นทีมชาติเป็นครั้งสุดท้ายในฟุตบอลโลก 1994

หลังเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ มาราโดนา ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสโมสรฟุตบอลหลายสโมสร โดยสโมสรสุดท้ายคือยิมนาเซียเดลาปลาตา มาราโดนาเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นที่บ้านในเมืองติเกร ประเทศอาร์เจนตินาในปี ค.ศ. 2020

เข้าสู่วงการฟุตบอล

ตอนอายุ 8 ปี เขาเริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรท้องถิ่น Estrella Roja ก่อนจะถูกเรียกให้มาติดสโมสรเยาวชนของ Argentinos Juniors ซึ่งมาราโดนาเริ่มเล่นในระดับอาชีพด้วยวัย 15 ปีและกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกฟุตบอลปริเมราดิบิซิออน ต่อมาเขาย้ายไปร่วมสโมสรโบกายูนิออร์ส ในปี ค.ศ. 1982 มาราโดนาย้ายไปอยู่สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาในสเปนด้วยค่าตัว 7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในขณะนั้น แต่ด้วยอาการบาดเจ็บและปัญหาหลายอย่างทำให้ มาราโดนา ย้ายไปอยู่สโมสรนาโปลีในอิตาลี ที่ซึ่งเขาได้รับตำแหน่งกัปตันทีมและพาสโมสรสร้างสถิติใหม่หลายอย่าง หลังจากนั้นมาราโดนาย้ายไปอยู่สโมสรฟุตบอลเซบิยา นีเวลส์โอลด์บอยส์ และกลับมาอยู่สโมสรโบกายูนิออร์สก่อนจะเลิกเล่นในปี ค.ศ. 1997

มาราโดนา

 

นักฟุตบอลมืออาชีพ

ในบทบาทนักฟุตบอลอาชีพ มาราโดนา เล่นให้กับสโมสรอาร์เฆนติโนสยูนิออร์ส, โบกายูนิออร์ส, บาร์เซโลนา, นิวเอลล์โอลด์บอยส์ และ นาโปลี ยังสร้างสถิติในเรื่องค่าสัญญาในระดับนานาชาติ เขาเล่นให้กับทีมอาร์เจนตินา 91 นัด ทำประตู 34 ประตู เขาเล่นในฟุตบอลโลก 4 ครั้ง โดยในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1986 เขานำทีมอาร์เจนตินาชนะทีมเยอรมันตะวันตกในรอบสุดท้าย และยังได้รับรางวัลลูกบอลทองคำในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยม ในการแข่งครั้งนี้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เขาทำคะแนน 2 ประตู จากผล 2–1 เหนือทีมอังกฤษ โดยในประตูแรกเป็นที่รู้จักในชื่อ “ประตูหัตถ์พระเจ้า” ในขณะที่ประตูที่ 2 เป็นการครองลูกระยะ 60 เมตร เลี้ยงหลบผู้เล่นอังกฤษ 6 คน จนได้รับขนานนามว่า “ประตูแห่งศตวรรษ”

มาราโดนา

มาราโดนา

 

จากหลายเหตุผล ทำให้มาราโดนาเป็น 1 ในนักกีฬาที่มีข้อขัดแย้งและเป็นที่ต้องการของนักข่าวมากที่สุดคนหนึ่ง เขาถูกพักการเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 15 เดือนในปี ค.ศ. 1991 หลังจากตรวจพบว่าเขาเสพโคเคนในประเทศอิตาลี และถูกส่งกลับบ้านในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกาหลังจากตรวจพบใช้สารเอฟิดรีน

 

หลังจากที่เขาเกษียณจากการเป็นนักเตะฟุตบอลในวันครบรอบอายุ 37 ปี ในปี ค.ศ. 1997 เขาทนทุกข์อาการป่วยมากขึ้นและน้ำหนักเพิ่ม และยังติดโคเคนอย่างต่อเนื่อง ในปี ค.ศ. 2005 หลังจากผ่าตัดท้องช่วยทำให้เขาควบคุมเรื่องน้ำหนักได้ หลังจากชนะจากการติดโคเคนได้เขาเป็นพิธีกรรายการชื่อดังในอาร์เจนตินา

ช่วงดาวรุ่ง

มาราโดนา เริ่มเล่นในระดับอาชีพด้วยวัย 15 ปี และกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกฟุตบอลปริเมราดิบิซิออน ต่อมาเขาย้ายไปร่วมสโมสรโบกายูนิออร์ส ในปี ค.ศ. 1982 มาราโดนาย้ายไปอยู่สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาในสเปนด้วยค่าตัว 7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในขณะนั้น

มาราโดนา

มาราโดนา

ติดทีมชาติครั้งแรก

มาราโดนา ติดทีมชาติในปี ค.ศ. 1977 และนำทีมอาร์เจนตินาชนะฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่งในฟุตบอลโลกครั้งนี้มาราโดนาได้ทำ “ประตูหัตถ์พระเจ้า” ที่เป็นที่ถกเถียงระหว่างแข่งกับทีมชาติอังกฤษ มาราโดนาเล่นทีมชาติเป็นครั้งสุดท้ายในฟุตบอลโลก 1994

มาราโดนา

มาราโดนา

คว้าแชมป์

ชนะ 1 ฟุตบอลโลก

ชนะ 1 ถ้วยสเปน

ชนะ 1 SPANISH SUPER CUP

2 แชมป์อิตาลี

ชนะ 1 ถ้วยอิตาลี

1 ผู้ชนะ ITALIAN SUPER CUP

ชนะ 1 ยูฟ่าคัพ

แชมป์ฟุตบอลโลก 1 รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี

1 แชมป์อาร์เจนติน่า

ชนะ 1 ถ้วยลีกสเปน

มาราโดนา

มาราโดนา

แขวนสตั๊ด

มาราโดนา ตกเป็นข่าวอื้อฉาวเรื่องการใช้ยาเสพติดจนส่งผลกระทบต่ออาชีพนักเตะของเขาหลายครั้ง โดยในปี 1997 เขาตัดสินใจเลิกเป็นนักฟุตบอลอาชีพในวันเกิดอายุครบ 37 ปี จากนั้นได้ผันตัวไปเป็นผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา และผู้จัดการทีมฟุตบอลในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก

มาราโดนา

มาราโดนา

ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด

หลังจากแขวนสตั๊ด มาราโดนา เคยรับงานคุมทีมอูร์รากัน (Hurracan) ในดิวิชัน 1 อาร์เจนตินา แต่ทำทีมจนตกชั้นตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ทำงาน เมื่อปี ค.ศ. 2009 มาราโดนาเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา แต่กลับทำทีมหมิ่นเหม่ต่อการตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 เคราะห์ยังดีที่อาร์เจนตินาเอาชนะอุรุกวัยไปได้ 1–0 ในนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือก จึงผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 ได้สำเร็จ เป็นเหตุให้มาราโดนาต่อว่านักข่าวที่เคยวิพากษ์วิจารณ์เขามาตลอด ทำให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษแบนเขาสองเดือนด้วยกัน เดือนมิถุนายน 2010 มาราโดนานำทีมชาติอาร์เจนตินาสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ให้กับทีมชาติเยอรมนี 0–4

มาราโดนา

มาราโดนา

เสียชีวิต

มาราโดนา เสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันที่บ้านพักในกรุงบัวโนสไอเรส วันนี้ (25 พ.ย.) ขณะมีอายุ 60 ปี หลังจากเข้ารับการผ่าตัดอาการเลือดคั่งในสมอง

มาราโดนา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *